愛梨ちゃんのブロク

เรื่องบ่นๆ บ้าๆ บอๆ ของไอริ

愛梨ちゃんのブロク

Tag: New graduate

การเรียน สำคัญจริงๆรึเปล่านะ…?

เห็นไอริจั่วหัวมาซะขนาดนี้ไม่ได้แปลในทำนองว่า “อย่าเรียนเลย ไปทำอย่างอื่นดีกว่า” นะ ฮ่าๆ

เหตุที่เขียน Title แบบนี้เราจะมา Discuss ในเรื่องนี้ค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าเหตุผลที่เขียนเรื่องนี้เพราะไอริเห็นตาม Internet ด้วยประโยคที่ว่า…

Bill Gates ไม่เรียนหนังสือ…เป็นเจ้าของ Microsoft

Steve Jobs ลาออกจากโรงเรียน…เป็นเจ้าของ Apple

ตัวเอง เรียนหนังสือ…เป็นลูกจ้างธรรมดาๆ

หรือว่า Comment แบบนี้…

ไม่เห็นต้องเรียนเก่งเลย เรียนไปก็เอาไปทำอะไรไม่ได้ คนที่ไม่เรียนแต่ประสบความสำเร็จมีเยอะแยะ

หรือว่าความคิดแบบนี้…

ไม่อยากเรียนหนังสือแล้ว เรียนไปทำไม ออกมาทำธุรกิจดีกว่า

ตรรกะแบบนี้…ถูกต้องแล้ว..จริงเหรอ?…

คำตอบในความคิดของไอริคือ…ไม่รู้ค่ะ

แต่ไอริเชื่ออย่างนึงว่าคนที่เค้าทำแบบนี้ อย่างน้อยเค้าต้องมี “เป้าหมาย” และ “แผนการ”

ไม่ใช่สักแต่พูด เอาแต่บ่น แล้วก็ออกจากการเรียน โดยที่ไม่มีแผน ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีอะไรเลย

พอออกมาทำมันก็ทำได้แค่ครึ่งๆกลางๆ ทำลอยๆ กะรวย เผื่อฟลุ๊ก สุดท้ายก็เจ๊ง

แล้วคนที่เดือดร้อนไม่ได้มีแค่คุณ แต่มีคนที่เค้ารักเค้าเป็นห่วงคุณ เค้าจะพลอยเป็นเดือดเป็นร้อนไปด้วย

สุดท้าย..บางคนก็ต้องระเห็จไปหางานทำ ทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ

งานที่ทำส่วนใหญ่เค้ารับวุฒิการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี ในเมื่อเรียนไม่จบแล้ว จะเอาวุฒิอะไรไปสมัครงาน?

แต่ก็อาจจะยกเว้นสำหรับคนที่มีความสามารถจริงๆ ใช้ความสามารถของตัวเองพิสูจน์

ฉะนั้นสำหรับไอริ การเรียน เปรียบเสมือนฟูกเอาไว้รองรับในกรณีที่เราหล่นลงมาค่ะ

ถึงแม้คุณจะปีนขึ้นที่สูงไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยตอนคุณตกลงมาจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมาก

ไอริเคยได้ยินคำพูดที่ว่า…

ในการทำธุรกิจ 3 ใน 10 คนเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ

ณ ตอนที่เราทำ เราไม่รู้หรอก ว่าเราอยู่ในกลุ่ม 3 คน หรือ เราอยู่ในกลุ่ม 7 คนกันแน่

ถ้าเป็นกลุ่ม 3 คนก็คงจะเป็นคนเก่งจริงๆ แต่ถ้าเป็นกลุ่มใน 7 คนนั้นล่ะ เราจะมีวิธีรับมือยังไง…?

ฉะนั้นไอริแนะนำว่า ถ้าตัวเรายังไม่มีแผนและเป้าหมายที่ชัดเจนก็ เรียนไปเถอะ

การเรียนไม่เคยทำให้ใครเสียหาย แต่ทั้งนี้การเรียนที่ดีจะต้องเรียน “เพื่อความรู้” ไม่ใช่เรียน “เพื่อใบปริญญา”

เพราะใบปริญญาที่ปราศจากความรู้ มันก็เป็นเหมือนเศษกระดาษดีๆนี่เอง

แต่สำหรับคนที่ไม่มีความรู้ ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแผนการอะไรเลย แล้วจู่ๆก็มาบอกว่า อย่าไปเรียนเลย เรียนไปแล้วได้อะไร เรียนไปทำไม ออกไปทำอย่างอื่นดีกว่า จะได้ประสบความสำเร็จ ดีกว่าเยอะ

แค่คิดแบบนี้ก็เป็นคนขี้แพ้แล้วค่ะ

แต่ถ้าคิดแล้วเริ่มตั้งเป้าหมาย เริ่มวางแผน แล้วเริ่มลงมือทำแบบนี้คุณอาจจะไม่เป็นคนขี้แพ้แล้วก็ได้นะ อย่าดูถูกตัวเองนะคะ 😛

แชร์ประสบการณ์เด็กจบใหม่มีเงินกว่าครึ่งแสน

สวัสดีค่า ก่อนอื่นเห็นจั่วหัวขนาดนี้อย่าคิดว่าโม้นะ ฮ่าๆๆ (แต่เอ็งก็โม้จริงๆอ่ะแหละ)

ก่อนหน้านี้เราเคยตั้งเป้าหมายไว้ว่า อยากจะมีเงินล้านก่อน 30 เนอะ

วันนี้ก็เลยจะมาพูดถึงวิธีของไอริที่คิดว่าเป็นวิธีที่จะไปสู่เป้าหมายนี้กันค่ะ ( ^^)

ไอริเริ่มมาคิดเรื่องเงินจริงๆจังๆตอนสมัยเรียน ปี 2 ที่เริ่มรับทำงานเป็นนักศึกษาทุนจ้างงานค่ะ

นอกจากทุนจ้างงานแล้ว ตอนที่เรียนก็ได้ทุนเรียนดีของมหาลัยช่วยพ่อแม่จ่ายค่าเทอม ค่าหอด้วย

สี่ปีที่เรียนมาก็เลยช่วย Save ค่าเทอมไปได้ประมาณเกือบครึ่ง

แต่ว่าแค่นี้ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งอะไรนะ เพราะเพื่อนไอริบางคน เป็นเจ้าของกิจการตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ บางคนก็ทำงานส่งตัวเองเรียนตลอด 4 ปีก็มี

ตอนแรกก็เหมือนเด็กๆทั่วไปที่พอทำงานได้เงินมาก็ดี๊ด๊า อยากทำโน่นทำนี่

ไอริก็จัดเลย ตอนนั้นอยากสวย เริ่มซื้อเครื่องสำอางค์ ตามพวก Beauty Blogger ต่างๆที่เค้าแนะนำว่าดี แนะนำว่าเด็ด

จนตอนนี้มีอยู่เต็มลิ้นชัก แต่เอามาใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ แค่ประมาณ 30% ของของที่มีอยู่ ( = = )”

แต่กิเลสมนุษย์มันไม่เคยพอค่ะ พออยากได้แล้วก็ต้องอยากได้อีกเป็นธรรมดา

ถ้าเราไม่คุมมัน เวลาที่เราจะใช้เงินจริงๆมันจะไม่มีนะ

ด้วยเหตุนี้ก็เลยตั้งเป้าหมายการเก็บเงินเอาไว้ ตอนแรกก็ศึกษาพวกบัญชีเงินฝาก อะไรที่ว่าดอกเบี้ยเยอะๆ เราก็ฝากค่ะ ฮ่าๆๆ

เก็บเงินได้จนกระทั่ง มีเงินซื้อแหวนทอง กับต่างหูทองให้แม่ ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ราคาอาจจะดูไม่ได้หรูหราอะไร แต่มันก็ทำให้คนที่เรารักดีใจ ( ^^)

จนความโลภมันก็เข้าครอบงำแบบพอดีๆ(?) เลยหันมาสนใจการวางแผนทางการเงิน อัตราแลกเปลี่ยน หุ้น กองทุน บลาๆๆ

จนตอนนี้ไอริทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ตั้งเป้าหมายไว้ทุกๆเดือนว่า ให้หัก 20% ของเงินเดือนเอาไปออม หรือลงทุนอะไรซักอย่างนึง

แล้วห้ามถอนออกมาอีก ไม่ว่าสถานการณ์จะบีบบังคับให้เราต้องใช้เงินมากแค่ไหน

เคล็ดลับของการออมเงินจริงๆแล้วมันไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย มันอยู่ที่ตัวเราเอง ในคำนี้

“วินัย”

จนตอนนี้ไอริมีเงินเก็บ และ สินทรัพย์รวมกว่าครึ่งแสนแล้วค่ะ \( ^^)/

Powered by WordPress & Theme by Anders Norén